บ้านทิศไหนดี นอกจากจะต้องดูสภาพแวดล้อม และทำเลโครงการแล้ว ทิศทางของหน้าบ้านว่าหันไปทางทิศใด ข้อมูลของแผนผังโครงการ ไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ หรือคอนโดมิเนียม ต้องดูที่ทำเลที่ตั้ง ทิศทางของดวงทิตย์ และทิศทางลม ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะเลือกหน้าบ้านว่าแต่ละทิศมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร ทิศไหนถึงจะดีเหมาะสม เพราะบ้านซื้อทั้งทีจะต้องอยู่กับเราไปอีกนาน
ดังนี้ตำแหน่งของทิศทางของนั้น เราต้องศึกษาว่าเราจะใช้ประโยชน์ในส่วนไหนหรือห้องไหนในบ้านเวลาใด ซึ่งจะมีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะทิศของห้องต่างๆ ตำแหน่งทิศหรือหน้าต่าง ที่เป็นจุดให้ลงและแสงแดดผ่านเข้ามาให้ห้องได้
โดยธรรมชาติแล้ว เส้นทางของแสงแดดจะโครจรเริ่มจากแดดอ่อนๆ ตอนเช้าทงทิศตะวันออก ในช่วงบ่ายจะเป็นแดดที่ค่อนข้างแรงในทิศตะวันตก นอกจากนี้แดดยังอ้อมไปทางทิศใต้ช่วงบ่ายๆ เที่ยงๆ อีกด้วย แต่จะอ้อมมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับช่วงเดือนต่างๆ ในแต่ละปี ส่วนทิศทางของลมนั้น จะพัดมาทาง ทิศเหนือและทิศใต้ ในแต่ละช่วงเดือน ลมก็จะพัดต่างกันออกไปเช่นกัน เรามาดูกันว่าแต่ละทิศจะมีข้อดีข้อเสียอย่างไรบ้าง ไปติดตามพร้อมกันเลย
ทิศเหนือ
เป็นทิศที่แสงแดดส่องเข้าถึงน้อยที่สุด จึงทำให้เป็นทิศที่มีความเย็นสบายตลอดทั้งปี อีกทั้งเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดน้อยตลอดทั้งวัน จึงทำให้ไม่ว่าจะเป็นฤดูร้อน หรือฤดูหนาว ทิศนี้ก็จะเย็นสบายตลอดทั้งปีนั้นเอง และในฤดูหนาวจะได้รับลมเต็มที่ ดังนั้นควรจัดวางตำแหน่งห้องที่ใช้เวลางานในเวลากลางวันให้มากที่สุด เช่น ห้องนั่งเล่น หรือห้องรับแขก ให้อยู่ทางทิศเหนือเนื่องจากทิศนี้จะได้รับแสงธรรมชาติที่เพียงพอและอากาศไม่ร้อนจนเกินไปนั้นเอง อย่างไรก็ตามเมื่อแสงแดดไม่ตกถึงห้อง จะทำให้ห้องอับชื้น เกิดเชื้อราได้ง่าย และการระบายอากาศไม่ค่อยดี โดยควรหมั่นดูแลทำความสะอาดห้องอย่างสม่ำเสมอเพื่อไม่ห้องอับชื่น
ทิศใต้
เป็นทิศที่มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และรับลมธรรมชาติได้ดี อีกทั้งยังได้รับแสงแดดตลอดทั้งปี ห้องที่อยู่ทิศนี้จะได้รับลมเข้าช่วงฤดูร้อนและฤดูฝน ยาวนานประมาณ 7-8 เดือนต่อปี ทำให้ห้องเย็นสบาย แต่จะได้รับแสงแดดเข้าบ้านช่วงเดือน ส.ค. ถึง เม.ย. จะโดนแดดร้อนหน่อย แต่ก็สามารถแก้ไขได้โดยปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อลดความร้อนและให้เป็นร่มเงาทำให้ตัวที่อยู่อาศัยทิศนี้ร่มรื่น ควรจัดวางตำแหน่งพื้นที่ใช้สอยในทิศนี้เป็นห้องที่ไม่ได้ใช้บ่อย เช่น ห้องเก็บของ หรือห้องน้ำ และควรมีขนาดช่องแสงไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของพื้นที่ใช้สอย เพื่อไม่ให้ร้อนเกินไป
ทิศตะวันออก
เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดในช่วงเช้า จึนถึงเที่ยง ซึ่งเป็นแสงแดดที่ไม่แรงมากจนเกินไป เหมาะสำหรับคนที่ชอบตื่นเช้า หรือออกกำลังกาย พอแดดช่วงเช้าแยกตาก็จะทำให้ตื่นง่าย เป็นทิศที่ได้รับแดดอ่อนๆ แต่จะไม่แรงเท่าทิศตะวันตก พอช่วงเวลาใกล้เที่ยงก็จะร้อนพอสมควร ควรจัดวางด้านแคบของตัวบ้านหรือคอนโด ให้หันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตก เพื่อให้มีพื่นทีในการับแสงแดดที่น้อยที่สุด และทำให้ทีอยู่อาศัยดูดซับความร้อนได้น้อยในเวลากลางวันและคายความร้อนได้มากในเวลากลางคืน ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยไม่ร้อนจนเกินไป สำหรับหน้าร้อนอาจจะอบอ้าว เพราะทิศตะวันวันออกไม่ค่อยได้รับลมเท่าไร แต่หากเป็นฤดูหนาวอากาศจะดี เพราะได้รับลมเย็นๆ พัดผ่านเข้าห้องตรงๆ ตำแหน่งของทิศนี้ควรวางตำแหน่งของห้องที่ไม่ต้องการความร้อนมาก รับแสงแดดตอนเช้าๆ ได้ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น เช่นเดียวกับทิศเหนือ
ทิศตะวันตก
เป็นทิศที่ได้รับแสงแดดในช่วงบ่ายไปจนถึงตอนเย็น ซึ่งจะทำให้ร้อนกว่าทิศอื่นๆ ส่งผลให้ที่อยู่อาศัยได้รับความร้อนมากตลอดทั้งวัน แต่ช่วงหน้าร้อนอากาศไม่ร้อนมาก เพราะถึงแม้จะมีแสงแดดแต่ก็ยังได้รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ หรือลมมรสุมฤดูร้อน พัดผ่านทำให้ลมช่วยระบายความร้อนออกไป ในทิศนี้ควรเป็นตำแหน่งที่วางพื้นที่ใช้สอยที่สามารถลดความอับชื่นได้เป็นอย่างดี พื้นที่ใช้สอยที่ต้องการความร้อน เช่น ส่วนซักล้าง หรือตำแหน่งห้องน้ำ และควรหลีกเลี่ยงที่จะวางตำแหน่งของห้องที่ต้องใช้งานและกิจกรรมตอนเย็นถึงตอนกลางคืน รวมถึงไม่ควรวางตำแหน่งห้องนอนในทิศนี้
สรุปแล้ว
บ้านทิศไหนดี ทิศทางที่บ้านควรหันไปมากที่สุดคงจะเป็นทิศเหนือ เพราะได้รับการรบกวนจากแดดน้อย และมีลมพัด รองลงมาก็น่าจะเป็นทิศตะวันออก เพราะได้รับแดดอ่อนๆในตอนเช้า ส่วนทิศที่ไม่ควรหันไป คงจะเป็นทิศตะวันตก เพราะได้รับแดดบ่ายที่เป็นแดดที่ร้อนที่สุดแบบเต็มๆ อย่างไรก็ตาม การจัดวางห้องต่างๆ ก็ควรคำนึงถึงเรื่องทิศทางของแดดและลม ด้วยเช่นกัน เช่น ทิศใต้และทิศตะวันตกมีแดดค่อนข้างแรง ควรจัดวางเป็นห้องต่างๆ ที่ต้องใช้แสงหรือส่วนซักล้าง ส่วนในทิศตะวันออกและทิศเหนือก็ควรเป็นห้องพักผ่อนเพราะไม่ร้อนและโดนแสงแดดรบกวนน้อย ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว บ้านทุกหลังคงอาจไม่สามารถหันไปทางทิศที่ดีได้ทุกหลัง ฉะนั้น การเลือก ซื้อบ้านทิศไหนดี ที่สุด อาจต้องพิจารณาองค์ประกอบอื่นๆ รวมถึงไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของเราในแต่ละวันด้วย
ใครที่กำลังมองหาบ้าน ลองนำข้อมูลไปพิจารณาประกอบกับการใช้ชีวิตของตัวเองดู ว่าแต่ละวันใช้พื้นที่ส่วนไหนทำกิจกรรมต่างๆมากน้อยเพียงใด และให้เลือกทิศที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของเรามากที่สุด เพราะไม่ว่าบ้านจะหันหน้าทิศไหน ไม่ว่าทางทิศเหนือหรือใต้ต่างก็มีข้อดีข้อเสียไปคนละแบบ
นอกจากเรื่องทิศทางลมและแสงแดด สิ่งที่ผู้ซื้อควรให้ความสนใจก็คือเรื่องประตู หน้าต่างและช่องเปิดของห้อง เพราะการตั้งอยู่ในทิศทางลมแต่ไม่มีหน้าต่างหรือประตูที่เปิดรับลมได้ก็ไม่เกิดประโยชน์ ฉะนั้น ควรเลือกบ้านที่มีช่องลมในทิศทางเหนือ-ใต้ ให้มาก สำหรับแปลนบ้านหัวมุมก็ลองพิจารณาให้ห้องที่เราอยู่ส่วนใหญ่ให้อยู่ทางด้านทิศเหนือจะได้ไม่ร้อน หรือการที่มีผนังบางด้านที่รับแดดก็ควรเลือกที่เป็นผนังทึบหรือเป็นช่องเปิดน้อยเพื่อลดความร้อนที่จะเข้าสู่ห้องโดยตรง สุดท้ายแล้วการเลือกบ้านที่ถูกทิศทาง ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องค่าไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี เพราะไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศมากนัก หวังว่าเพื่อนๆ คงได้บ้านที่มีทิศทางที่เย็นสบายและเอื้อต่อการใช้ชีวิตได้อย่างดีที่สุด
ข้อมูลจาก : thelivinginsight